Menu

แชมป์เก่า บาร์เซโลน่า งัดฟอร์มโคตรดุเมื่อดาหน้าไล่ถล่ม เรอัล มาดริด

แชมป์เก่า บาร์เซโลน่า งัดฟอร์มโคตรดุเมื่อดาหน้าไล่ถล่ม เรอัล มาดริด คู่อริร่วมลีกไปแบบไม่ไว้หน้า 5-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกมนี้ หลุยส์ ซัวเรซ ตะบันแฮตทริกพร้อมคว้าทีมซิวสามแต้มนำเป็นจ่าฝูง อีกทั้งเกมนี้ยังเป็นหนแรกในรอบ 11 ปี ที่ "เอล กลาซิโก้" ไร้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายไปยูเวนตุส และลิโอเนล เมสซี่ ที่บาดเจ็บ ขณะที่อนาคตของ จูเลน โลเปเตกี กุนซือชุดขาวใกล้ชะตาขาดโอกาสโดนปลดมีสูง
สนาม : คัมป์ นู

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือ บาร์เซโลน่า ขาด ลีโอเนล เมสซี่ ที่กระดูกแขนแตกต้องพัก 3 สัปดาห์ โดยตัวรุกที่ลงมาทำหน้าที่แทนคือ ราฟินญ่า ลงเล่นร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ และ ฟิลิเป้ คูตินโญ่ ด้าน เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ จูเลน โลเปเตกี ใช้ระบบ 4-3-3 ให้ อีสโก้ ลงทำเกมรุกร่วมกับ แกเร็ธ เบล และ คาริม เบนเซม่า

เริ่มเกมขึ้นมา "ราชันชุดขาว" ทักทายก่อน แกเร็ธ เบล กระชากขึ้นมาเปิดบอลให้ คาริม เบนเซม่า โฉบมายิงด้วยซ้ายโด่งข้ามคาน

ซัวเรซแฮตทริก! บาร์ซ่าดุถล่มเรอัลมาดริดหมดสภาพ ศึกเอล กลาซิโก้


นาทีที่ 10 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮลั่นสนามเมื่อ บาร์เซโลน่า ออกนำ 1-0 จอร์ดี้ อัลบา ได้บอลหลุดเติมไปสุดเส้นหลังแล้วตบไหลคืนถวายพานให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ บรรจงแปด้วยซ้ายเสียบเสาไกล

ทีมเยือนพยายามตอบโต้ ลูก้า โมดริช วางบอลหลุดไปถุง แกเร็ธ เบล ลากตัดเข้าในไปซัดบอลไม่ผ่านมือ มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น รับเข้าซองอยู่หมัด

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง สถานการณ์ของ "ราชันชุดขาว" เริ่มแย่ลงไปอีก เมื่อ ราฟาเอล วาราน เข้าไปกระแทก หลุยส์ ซัวเรซ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินขอใช้ VAR ก่อนจะวิ่งกลับมาในสนามและชี้ให้ "อาซูลกราน่า" ได้ลูกจุดโทษ ก่อนที่ ซัวเรซ จะทำหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ให้ บาร์เซโลน่า นำห่าง 2-0

ซัวเรซแฮตทริก! บาร์ซ่าดุถล่มเรอัลมาดริดหมดสภาพ ศึกเอล กลาซิโก้


ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกเจ้าบ้านได้เสียวจากฟรีคิกระยะหวังผล อีสโก้ ยิงข้ามกำแพงแต่หลุดออกหลังได้ลุ้น จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ขึ้นนำอยู่ 2-0

ช่วงพักครึ่ง โลเปเตกี ปรับแท็กติกเปลี่ยนตัวถอด ราฟาแอล วาราน ที่เจ็บออก และส่ง ลูกัส บาสเกซ ลงแทน พร้อมขยับ นาโช่ เฟร์นานเดซ เข้ามาจับคู่เซนเตอร์แบ็กกับ ราฟาแอล วาราน

ลงสนามมาสู้กันต่อ 5 นาที เรอัล มาดริด ตามมา 1-2 อีสโก้ ตามไปตวัดบอลที่สุดเส้นหลัง เกลม็อง ลองเล่ต์ พยายามสกัดบลอลแต่ไมดีเข้าทาง มาร์เซโล่ วิเอยร่า โฉบมาเอาบอลแล้วยิงสวนเข้ากลางประตูไม่เหลือ

ซัวเรซแฮตทริก! บาร์ซ่าดุถล่มเรอัลมาดริดหมดสภาพ ศึกเอล กลาซิโก้


เรอัล มาดริด ได้ใจใหญ่แล้ว มาร์เซโล่ วิเอยร่า เติมเกมขึ้นมาแล้วเปิดบอลให้ เซร์คิโอ รามอส เทกขึ้นโหม่งบอลโด่งข้ามคาน และต่อมา ลูก้ส โมดริช ได้ซัดในเขตโทษไปชนเสาน่าเสียดาย

รูปเกมเปิดแล้วและหวิดเป็น บาร์ซ่า หนีห่าง เซร์จี้ โรเบร์โต้ เติมเกมขึ้นมาเปิดเข้าเขตโทษ หลุยส์ ซัวเรซ ล้มตัวยิงย้อนศรหลุดเสาแรกนิดเดียว

นาที 75 กลายเป็น บาร์เซโลน่า นำห่าง 3-1 จนได้ อุสมาน เดมเบเล่ ตัวสำรอง ลากบอลขึ้นมาไหลออกทางขวา เซร์จี้ โรเบร์โต้ ตักบอลเข้าเขตโทษ หลุยส์ ซัวเรซ วิ่งมาโหม่งผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ จมก้นตาข่าย

ซัวเรซแฮตทริก! บาร์ซ่าดุถล่มเรอัลมาดริดหมดสภาพ ศึกเอล กลาซิโก้


ทีมเยือนจากเมืองหลวงเกมสะดุดทันทีและมาโดนเพิ่มอีกนาที 83 เซร์คิโอ รามอส จับบอลลั่นไปเข้าทาง เซร์จี้ โรเบร์โต้ เก็บมาไหลต่อให้ หลุยส์ ซัวเรซ บรรจงยิงเสียบมุมเด็ดขาด บาร์เซโลน่า หนีไกล 4-1 และเป็นแฮตทริกของดาวยิงชาวอุรุกวัย

เท่านั้นไม่พออีก 4 นาทีถัดมา บาร์เซโลน่า หนีไกล 5-1 จากการประสานงานของสองแข้งสำรอง อุสมาน เดมเบเล่ ลากผ่าน นาโช่ เฟร์นานเดซ ไปตัดบอลเข้าเขตโทษ อาร์ตูโร่ วีดาล เทกขึ้นโหม่งบอลตุงตาข่าย

ซัวเรซแฮตทริก! บาร์ซ่าดุถล่มเรอัลมาดริดหมดสภาพ ศึกเอล กลาซิโก้


ช่วงทดเจ็บ เรอัล มาดริด หวิดได้ประตูเพิ่ม มาเรียโน่ ดีอาซ ตัวสำรอง ไหลให้ คาริม เบนเซม่า หลุดเดี่ยวไปยิงมุมแคบด้วยซ้ายหลุดถากเสาไกลไม่ถึงคืบ จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดรังไล่ถล่ม เรอัล มาดริด เละเทะ 5-1 ขึ้นมารั้งจ่าฝูงอีกครั้ง

ขณะที่ เรอัล มาดริด ผลงานแย่สุดๆ แพ้ 4 ใน 5 เกมลีก รั้งอันดับ 9 ของตารางลีก ส่วนอนาคตของ จูเลน โลเปเตกี กุนซือของราชันชุดขาวชะตาใกล้ขาด โอกาสที่จะปลดจากตำแหน่งมีค่อนข้างสูง

ซัวเรซแฮตทริก! บาร์ซ่าดุถล่มเรอัลมาดริดหมดสภาพ ศึกเอล กลาซิโก้


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

บาร์เซโลน่า : มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น, เซร์จี้ โรเบร์โต้,เคราร์ด ปีเก้,เกลม็อง ลองเล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อาร์ตูร์ เมโล่ (อาร์ตูโร่ วีดาล น.84) , อีวาน ราคิติช, ราฟินญ่า อัลกันตาร่า (เนลซอน เซเมโด้ น.69), หลุยส์ ซัวเรซ,ฟิลิเป้ คูตินโญ่ (อุสมาน เดมเบเล่ น.74)

เรอัล มาดริด : ติโบต์ กูร์กตัวส์, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ราฟาแอล วาราน (ลูกัส บาซเกซ น.46), เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ วิเอยร่า (มาเรียโน่ ดีอาซ น.82), ลูก้า โมดริช, เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่,โทนี่ โครส, อีสโก้, แกเร็ธ เบล (มาร์โก อาเซนซีโอ น.77)เบล,คาริม เบนเซม่า แทงบอล

โพสต์โดย : sbobet sbobet เมื่อ 29 ต.ค. 2561 10:09:30 น. อ่าน 596 ตอบ 0

facebook