Menu

ย้อนรอยตำนานหมายเลข 10 ปีศาจแดงดำ

gclub
ก่อนที่ เคซุเกะ ฮอนดะ จะกลายเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 คนใหม่ของมิลาน โกล ขอพาท่านย้อนกลับไปรู้จักกับเหล่านักเตะที่เคยได้สวมเบอร์อันทรงเกียรตินี้กันให้มากขึ้น ทันทีที่ตลาดนักเตะหน้าหนาวเดือนมกราคมเปิดขึ้น เคซุเกะ ฮอนดะ จอมทัพเลือดบูชิโดก็กลายมาเป็นผู้เล่นของ เอซี มิลาน ทีมยักษ์ใหญ่ในอิตาลี อย่างเต็มตัว หลังย้ายมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว พร้อมเซ็นสัญญา 3 ปีกับสโมสร  นอกจากนี้ ดาวเตะวัย 27 ปี ยังจะมีโอกาสได้สืบทอดเบอร์ 10 อันทรงเกียรติของมิลาน หลังออกปากขอจาก อาเดรียโน กัลเลียนี รองประธานสโมสรของมิลาน ด้วยตัวเอง  หากมองย้อนไปในอดีตจะพบว่า น้อยคนนักที่จะได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ gclub  ด้วยเหตุนี้ โกลจึงอยากจะพาท่านไปรู้จักเหล่าอดีตนักเตะหมายเลข 10 ในถิ่นซานซิโร หากพร้อมแล้ว เชิญรับชมได้เลย
gclub
จานนี ริเอรา ปี 1960-1970 ดาวเตะทีมชาติอิตาลี ผู้เป็นกำลังสำคัญให้แก่มิลานในช่วงทศวรรษที่ 60-70 ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือการพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพมาครองได้ถึง 2 สมัย และแชมป์สคูเด็ตโตอีก 3 สมัย แถมยังเคยคว้ารางวัลบัลลงดอร์มาครองได้อีก 1 ครั้งในปี 1969 นอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมปีศาจแดงดำมากเป็นอันดับ 4 ของสโมสรจากจำนวน 658 นัด ยิงไปได้ 164 ประตู สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของทีม

รุด กุลลิต ปี 1987-1993 และ 1994-95  อดีตนักเตะเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลกหลังย้ายมาอยู่กับมิลานเมื่อปี 1987 หนึ่งใน “สามทหารเสือฮอลแลนด์” อันลือชื่อเคียงคู่กับ มาร์โก ฟาน บาสเทน และ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ภายใต้การนำทัพของ อาร์ริโก ซาคคี กุนซือระดับตำนานของปีศาจแดงดำในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 จนถึงต้นทศวรรษที่ 90 กุลลิตเป็นผู้ทำคนเดียว 2 ประตูให้มิลานเอาชนะ สเตอัว บูคาเรสต์
ไปได้ในศึกแชมเปียนคัพปี 1989 พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี แถมยังป้องกันแชมป์ได้ในปีถัดไป และยังเป็นกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์เซเรียอา 3 สมัยติดต่อกันในปี 1991-92, 1992-93 และ 1993-94

เดยัน ซาวิเซวิช ปี 1992-98  จากความสามารถเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ดาวเตะทีมชาติยูโกสลาเวียเจ้าของฉายา “อัจฉริยะลูกหนัง” มีแฟนชื่นชอบในฝีเท้าของเขาอย่างมากมาย gclub แม้จะต้องพบกับความยากลำบากกับการแย่งโควต้านักเตะต่างชาติในช่วงแรก แต่เขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีม แถมยังสามารถสร้างชื่อได้ด้วยการเป็นผู้ยิงประตูสุดสวยนัดชิงชนะเลิศยูฟา แชมเปียนส์ลีกที่ถล่มบาร์เซโลนาไปได้อย่างหมดรูป 4-0 และยังเป็นกำลังสำคัญในทีมชาติยูโกสลาเวียในยุคเดียวกับ ดราแกน สตอยโควิช

สโวนิเมียร์ โบบัน ปี 1991-2001  แม้ดาวเตะเลือดโครแอตจะย้ายมาเป็นสมาชิกของมิลานตั้งแต่ปี 1991 แต่เขาก็ต้องรอไปก่อนถึง 1 ปีหลังถูกส่งตัวไปให้เพื่อนร่วมลีกอย่าง บารี ยืมตัวไปใช้งาน โบบันก็เหมือนนักเตะต่างชาติคนอื่นๆที่ประสบความยากลำบากในการแย่งโควต้าแข้งนอกประเทศ แต่ผลงานสม่ำเสมอของเจ้าก็ทำให้เขาสามารถขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ จนได้รับสืบทอดหมายเลข 10 จาก ซาวิเซวิช ในปี 1998 ก่อนจะพาทีมคว้าคว้าแชมป์เซเรียอาในฤดูกาลนั้นไปครอง แถมยังเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติโครเอเชียในฟุตบอลโลก 98 ที่ฝรั่งเศส จนสามารถคว้าอันดับ 3 มาได้อย่างเหนือความคาดหมาย

มานูเอล รุย คอสต้า ปี 2001-2006  หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไปพร้อมกับ กาเบรียล บาติสตูตา ที่ฟิออเรนตินามานานหลายปี รุย คอสตา ก็จำเป็นที่ลาจากทีมม่วงมหากาฬดจากการถูกขายไปให้มิลานด้วยค่าตัวสูงถึง 30 ล้านปอนด์ อันเนื่องจากสถานะทางการเงินที่สั่นคลอนของสโมสร แม้จะเปลี่ยนสีเสื้อ แต่ฝีเท้าของเขาก็ยังยอดเยี่ยมไม่เคยเปลี่ยน พร้อมรับบทบาทจอมทัพหมายเลข 10 จ่ายบอลให้ ฟิลิปโป อินซากี และ อังเดร เชฟเชนโก ทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟาแชมเปียนส์ลีกได้ในปี 2003 ด้วยการเอาชนะเพื่อนร่วมชาติอย่างยูเวนตุสในนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในสามชิกยุคทองของโปรตุเกสที่เต็มไปด้วยนักเตะชื่อดังอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, เปาโล ซูซา และ เฟอร์นันโด เคาโต

คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ ปี 2002-2012 อาแจ็กซ์, เรอัล มาดริด และ อินเตอร์ คือต้นสังกัดเก่าของดาวเตะทีมชาติฮอลแลนด์ก่อนจะย้ายมาอยู่กับมิลานในปี 2002 ความเป็นจริงหมายเลขแรกที่ซีดอร์ฟสวมใส่ในสีเสื้อมิลานคือหมายเลข 20 แต่หลัง รุย คอสต้า ย้ายออกไปในปี 2006 หมายเลข 10 ก็ตกมาเป็นของเขา และแค่เพียงปีแรกที่ย้ายมาร่วมทีม ซีดอร์ฟก็สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมาครองได้สำเร็จ กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรป 3 ครั้งจาก 3 สโมสรที่แตกต่างกัน มิดฟิลด์สัญชาติดัตช์อยู่ค้าแข้งในถิ่นซานซิโรยาวนานถึง 10 ปี ทำสถิติเป็นผู้เล่นต่างชาติที่ลงเล่นให้กับมิลานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะย้ายกลับไปเล่นให้กับ โบตาโฟโก ในลีกบราซิลเมื่อปีที่ผ่านมา

เควิน พรินซ์ บัวเต็ง ปี 2010-2013  ก่อนที่จะย้ายมาอย่กับมิลานในปี 2010 พรินซ์ บัวเต็ง เคยมีประสบการณ์อันโชกโชนในลีกของเยอรมันและอังกฤษมาพอสมควร ดาวเตะเลือดดอยช์ได้รับสืบทอดเบอร์ 10 ของมิลานหลัง ซีดอร์ฟออกจากทีมไปในปี 2012 แม้จะต้องรับความกดดันจากเหล่าผู้เล่นหมายเลข 10 ชื่อดังที่เคยรับบทบาทนี้ แต่ บัวเต็ง ก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และเป็นกำลังหลักของทีมตลอด 3 ปีในสีเสื้อมิลาน ก่อนจะย้ายไปอยู่กับชาลเกอย่างสุดช็อคในช่วงตลาดนักเตะเมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา

เคซุเกะ ฮอนดะ ปี 2014 – ?  แม้จะมีข่าวกับมิลานตลอดช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา แต่ด้วยการเจรจาที่ไม่ลุล่วงกับ ซีเอสเคเอ มอสโค ต้นสังกัดของ ฮอนดะ ทำให้ดีลต้องล่มไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่สัปดาห์ที่ผ่านมา อาเดรียโน กัลเลียนี รองประธานสโมสรของมิลานจะออกมายืนยันด้วยตนเองว่าจอมทัพเลือดซามูไรจะย้ายมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวในเดือนมกราคม พร้อมสืบทอด “เอซนัมเบอร์” หมายเลข 10 ของมิลานเป็นคนต่อไป ส่วนผลงานจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องคอยติดตามชมกันต่อไป

เว็บ GCLUBMEMBER.COM ผู้สนับสนุนหลักมีบริการเว็บพนันออนไลน์ ที่นิยมมากหลากหลายช่องทางให้ลูกค้าเลือกเล่นไม่ว่าจะเป็น GCLUB, SBOBET , LSM99 , สมัครจีคลับ ,สมัครสโบเบ็ต , จีคลับ, ลีก88, สมัครลีก88 ,  LEAGUE88 , สมัคร GCLUB , สมัคร SBOBET, สมัคร LSM99, สมัคร LEAGUE88 , ทางเข้า จีคลับ ,  สโบเบ็ต  มวยออนไลน์, LSM99 มือถือ , LEAGUE88 AGENT สมัครสมาชิกตอนนี้ รับฟรี!! เครดิตโบนัส 50% ฟรี มีให้ท่านเลือกเล่น สล็อตออนไลน์ ไพ่เสือมังกร บาคาร่า สล็อตมือถือ เกมสล็อต ACE333 รูเล็ต ป๊อกเด้ง กำถั่ว หวยออนไลน์ หวย 3 ตัวเต็ง หวย 3 ตัวโต๊ด 2 ตัว บน-ล่าง หวยลาว หวยเวียดนาม หวยรัฐบาล  แทงบอลออนไลน์ แทงบอลผ่านมือถือ บอลสเต็ป บอลเต็ง บอลสด บอลชุด โต้ะบอล  แทงมวย มวยสเต็ป คาสิโน ถ่ายทอดสด ออนไลน์ เว็บเดียวจบทุกอย่าง ทางทีมงานมอบของขวัญให้ โบนัส จีคลับ 1000 บาทฟรี เฉพาะ สมัครสมาชิก GCLUBTH เว็บเดียวจบทุกอย่าง

โพสต์โดย : gclubth1 gclubth1 เมื่อ 3 ธ.ค. 2561 16:47:06 น. อ่าน 598 ตอบ 0

facebook