สำหรับตอนนี้ ซาร์รี่ ก็เหมือนกับศพเดินได้ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ เพราะผลงานของทีมย่ำแย่เหลือทน และโอกาสที่เขาจะตกงานก็เริ่มทวีมากขึ้นหากผลงานใน 3 เกมต่อจากนี้ได้แก่แมตช์ดวล มัลโม่ เกมยูโรปาลีก, ปะทะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นัดชิงคาราบาว คัพ และวัดฝีเกือกในเกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เจอ สเปอร์ส วันพุธหน้า ไม่ได้ผลการแข่งขันตามที่แฟนบอลและบอร์ดบริหารต้องการ
แล้วถ้า ซาร์รี่ ร่วงจากเก้าอี้กุนซือ ใครล่ะที่เหมาะสมจะมารับเผือกร้อน ? สำหรับตอนนี้มีแค่ 5 รายชื่อเท่านั้นที่เป็นตัวเต็งได้รับโอกาสปลุกปั้น เชลซี กลับมาผงาดอีกครั้ง
โซล่า ซึ่งสร้างผลงานได้อย่างสุดยอดให้กับ เชลซี สมัยที่ยังค้าแข้งและกลายเป็นหนึ่งในแข้งขวัญใจของแฟนบอล ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ และชื่อของเขาก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งท่จะได้รับงานนี้หากมีการส่งปลดกุนซือชาวอิตาเลียนออกจากตำแหน่ง
ตำนานแข้งทีมชาติอิตาลี เคยทำงานในฐานะกุนซือในอังกฤษมาแล้วกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, วัตฟอร์ด และ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แน่นอนว่าประสบการณ์ของเขาเพียบพอที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้ร้อนตัวนี้ แม้ว่าเจ้าตัวยังไม่ประสบความสำเร็จในการทำงานผู้จัดการทีมก็ตามที
การเลือก โซล่า น่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับสาวก "สิงห์บลูส์" ในระดับหนึ่งเนื่องจากเขาเป็นตำนานของทีม แม้จะไม่ค่อยมีประสบการณ์ในเกมระดับสูงมากนัก แต่หากเลือกให้มาทำหน้าที่เป็นกุนซือชั่วคราวจนกระทั่งจบฤดูกาล ก็อาจมีความเป็นไปได้
แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ตำนาน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี กำลังไปได้สวยกับการกุมบังเหียน ดาร์บี้ เคาน์ตี้ โดย "แกะเขาเหล็ก" ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในช่วงต้นฤดูกาลนี้ และยังโชว์ฟอร์มสวยหรูในศึกคาราบาว คัพ โดยเฉพาะในแมตช์เขี่ย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วงตกรอบ
ดาร์บี้ ยังอยู่ในอันดับที่น่าพอใจเมื่อมีลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ แชมเปี้ยนชิพ แต่ แลมพาร์ด ยังคงมีข่าวว่า เชลซี อยากได้ตัวไปกุมบังเหียน ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ที่ในเร็วๆ นี้ที่สโมสรจะติดต่อ "แลมพ์ส" คืนสู่เหย้าอีกครั้ง สำหรับโอกาสในครั้งนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เจ้าตัวยากจะปฏิเสธได้จริงๆ
แบรนเดน ร็อดเจอร์ส
ตอนนี้ชื่อของ ร็อดเจอร์ส ได้รับความสนใจมากๆ ว่าจะได้โอกาสกลับมาทำงานในอังกฤษอีกครั้ง และหากเป็นความจริงนี่จะเป็นการกลับสู่เหย้าแห่งถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกหน
อดีตผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เคยทำงานกุมบังเหียนสโมสรระดับเยาวชน "สิงโตน้ำเงินคราม" ก่อนที่จะพัฒนาตัวเองด้วยการเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ "แตนอาละวาด" วัตฟอร์ด จากนั้นก็โด่งดังจากการสร้างสวอนซี ซิตี้ ด้วยสไตล์การเล่นแบบ บาร์เซโลน่า จนได้ฉายา "สวอนเซโลน่า" และสร้างชื่อสุดขีดในการคุม ลิเวอร์พูล ที่เกือบได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2013–14
ปัจจุบัน "บีร็อด" คุม กลาสโกว์ เซลติก คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน และไม่แน่ว่าจะทำได้อีกครั้งในฤดูกาลปัจจุบัน ฉะนั้นแฟนบอลเชลซี อาจจะรู้สึกประหลาดใจว่าเขาจะนำทีมประสบความสำเร็จได้ไหมหากได้รับโอกาสกุมบังเหียน เพราะเจ้าตัวยังทำงานไม่สำเร็จตอนอยู่กับ "หงส์แดง" แต่โดนปลดออกจากตำแหน่งไปซะก่อน
ซีเนดีน ซีดาน
ซีดาน ยังไม่ได้หวนกลับมาทำงานกุมบังเหียนนับตั้งแต่ที่ตัดสินใจโบกมือลาตำแหน่งนายหัว "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสนำ เรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยซ้อน ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่ "ซิซู" จะเป็นชื่อที่ เชลซีอยากได้ตัว กระนั้นเขาก็อาจจะไม่รับงานนี้ เพราะผลงานของ "สิงโตน้ำเงินคราม" ค่อนข้างน่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ และยากจะฟื้นคืนชีพได้
อย่างไรก็ตามเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อาจจะเป็นไปได้ และถ้า ซีดาน คุมทีมแน่นอนว่าเขาต้องการการรับประกันว่า เอแด็น อาซาร์ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม จะอยู่กับทีมต่อไป ก่อนที่จะตัดสินใจรับงานนี้
โชเซ่ มูรินโญ่
บุรุษแห่งดินแดนฝอยทองเป็นชื่อที่แฟนเชลซีทั้งรักทั้งเกลียด มีโอกาสที่จะรีเทิร์น ออฟ เดอะ บริดจ์ อีกครั้ง ซึ่งหากเป็นความจริงนี่คือการคืนสู่เหย้าสมัยที่ 3 ของ มูรินโญ่ กับ "สิงห์บลูส์"
หลังจากที่โดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉดหัวทิ้งกลางอากาศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ตอนนี้ กุนซือชาวโปรตุกีส ยังไม่ได้หวนกลับไปนั่งกุมบังเหียน โดยใช้เวลาว่างรับทรัพย์แบบสบายๆ ด้วยการเป็นนักวิเคราะห์เกมให้กับรายการโทรทัศน์
สำหรับโอกาสในการหวนคืนเวสต์ ลอนดอน ในฐานะผู้จัดการทีม อาจจะเป็นโอกาสดีที่ยากจะปฏิเสธ เพราะเขาต้องการเรียกเครดิตของตัวเองกลับคืนมา หลังจากต้องพบกับความยากลำบากในช่วงระหว่างที่กุมบังเหียนยอดทีมแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
โพสต์โดย : rivaldo เมื่อ 21 ก.พ. 2562 12:30:10 น. อ่าน 180 ตอบ 0