Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
7 สารอาหารบำรุงผมและผิวให้สุขภาพดี
1.
วิตามินซี
หรือกรดแอสคอร์บิก เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเ
สริมสร้างคอลลาเจนให้แข็งแรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ทำให้รอยด่างดำจางลง ผิวกระจ่างใส ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอย
รักษาความแข็งแรงให้หลอดเลือด
อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวได้รับอันตรายจากรังสียูวี นอกจากจะรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีอย่างเหมาะสมแล้ว อาจใช้สกินแคร์ที่มีวิตามินซีเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
แหล่งที่พบ
:
ผลไม้ตระกูลซิตรัส ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอรี มะละกอ แคนตาลูป ผักใบเขียว ผักเคล พริกหยวกเหลือง ฯลฯ
2.
วิตามินอี
หรือโทโคฟีรอล ขึ้นชื่อว่า เป็น
สุดยอดสารต่อต้านอนุมูลอิสร
ที่ทำให้เกิดอันตรายต่อเซลล์ร่างกาย ผิว
ป้องกันการอักเสบ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำใหเผิวชุ่มชื้น กระชับ ช่วยให้แผลที่ผิวหนังหายเร็ว
ยิ่งขึ้น
แหล่งที่พบ : ไข่ ผักโขม กะหล่ำปลี ถั่ว จมูกข้าวสาลี น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกคำฝอย เม็ดมะม่วงหิมพานต์
3.
วิตามินเอ
นอกจากจะพบวิตามินเอได้ในอาหารหลากชนิดแล้ว วิตามินเอยังอยู่ในรูปแบบของเรตินอยด์ที่ใช้ทาเฉพาะจุดอีกด้วย ทั้งนี้วิตามินเอสามารถ
ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว
ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วถูกกำจัดออกไปและทำให้เซลล์ผิวใหม่เข้ามาแทนที่
ลดจุดด่างดำ รอยแผลเป็น รอยแผลสิว
อย่างไรก็ตาม การใช้เรตินอยด์อาจมีประสิทธิผลในการป้องกัน หรือแม้แต่พรางริ้วรอยเล็กๆ หรือรอยย่นบนใบหน้า แต่มันก็อาจทำให้เกิดรอยแดง หรือผิวลอก เมื่อคุณใช้ครั้งแรกได้
แหล่งที่พบ : แครอท ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก แคนตาลูป มันหวาน แตงกวา ผักกาดขาว ผักเคล ตำลึง ฟักทองน้ำเต้า น้ำมันตับปลา
4.
กรดไขมันโอเมก้า-3
เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว มีสัดส่วนประมาณ 3% ของเส้นผม และเป็นส่วนหนึ่งของเยื่อหุ้มเซลล์ของหนังศีรษะ โอเมก้า 3
ช่วยทำให้เส้นผมมีสุขภาพดี ยืดหยุ่น และเงางามน่าสัมผัส
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวหนังนุ่ม เนียน ชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้าน หรือสาก ไม่ลอก และช่วยลดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังได้
แหล่งที่พบ : ปลาแซลมอน ถั่ววอลนัท ถั่วแระญี่ปุ่น ผักใบเขียว
5.
ธาตุเหล็ก
เป็นกุญแจสำคัญที่
ทำให้คุณมีเส้นผมที่แข็งแรง
หากร่างกายได้รับธาตุไม่เพียงพvอาจทำให้เส้นผมเปราะบาง หรือขาดง่าย ผมร่วงมากผิดปกติ สำหรับสาเหตุนั้นเป็นเพราะหนังศีรษะ และต่อมรากผมได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยัง
ช่วยให้ผิวหนังเรียบเนียน
แหล่งที่พบ : ถั่วแดง ถั่วเลนทิล งา ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง ผักกูด ถั่วฝักยาว กระถิน มะกอก เห็ดฟาง เนื้อแดง ไข่แดง หอยนางรม
6.
ไบโอติน หรือวิตามินบี 7
หากร่างกายได้รับไบโอตินไม่เพียงพออาจทำให้เส้นผมหลุดร่วง หรือเปราะง่าย ผมหงอกง่าย แต่หากรับประทานไบโอตินอย่างเพียงพอจะทำให้เส้นผมแข็งแรง ไม่ขาดง่าย นอกจากนี้ยัง
ช่วยใบรรเทาผดผื่นคันต่างๆ ผิวหนังอักเสบได้
แหล่งที่พบ : แซลมอน ตับวัว เนย ถั่วลิสง ไข่แดง นม อะโวคาโด ราสเบอร์รี
7.
สังกะสี
หากประสบกับภาวะหนังศีรษะ หรือผิวแห้งเสีย ตกสะเก็ด และเกิดรังแค ไม่แน่ว่าอาจเกิดจากการได้รับธาตุสังกะสีไม่เพียงพอ เนื่องจากสังกะสี
ช่วยในการผลิตน้ำมันตามธรรมชาติที่ผิวหนัง ช่วยสร้างโปรตีน และคอลลาเจน
แหล่งที่พบ : อาหารทะเล หอยนางรม เนื้อสัตว์ ไข่ นมผง ถั่วชนิดต่างๆ จมูกข้าวสาลี เนย
จะเห็นได้ว่า การบำรุงจากภายในโดยการเลือกรับประทานอาหารบางชนิดก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การบำรุงจากภายนอก หากหมั่นรับประทานสารอาหารทั้ง 7 ชนิดที่เราแนะนำเป็นประจำ
ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย การพักผ่อนอย่างเหมาะสม รวมถึงใช้สกินแคร์และแฮร์แคร์ที่เหมาะสม รับรองว่า การมีเส้นผม และผิวที่มีสุขภาพดีจะไม่ใช่เรื่องยาก
อีกต่อไป
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : solo
เมื่อ 20 พ.ย. 2566 07:30:48 น. อ่าน 49 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์