Menu

คัดมาแล้ว กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอ๊คแลนด์ที่ไม่ควรพลาด! EP1

       โอ๊คแลนด์ (Auckland) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ มีอีกชื่อว่า “Tamaki-Makau-Rau” ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวมาวรี หรือ ชนเผ่าดั้งเดิมของประเทศนิวซีแลนด์ ใช้เรียกชื่อพื้นดินแห่งนี้ ซึ่งชื่อนี้เอง สามารถแปลว่าออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ได้อย่างตรงตัวว่า “A city desired by many” หรือที่แปลว่า “เมืองที่เป็นที่ต้องการของใครหลายคน” ซึ่งประโยคนี้ ก็ไม่ได้ไกลจากความเป็นจริงไปแม้แต่น้อย เพราะแม้ว่าเมืองโอ๊คแลนด์จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ มีประชากรอยู่อาศัยมากมาย และ มากด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่เมืองโอ๊คแลนด์แห่งนี้ ยังคงเป็นเมืองในกลุ่มประเทศ Oceania (โอเชียเนีย) ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ โดยมีเกาะน้อยใหญ่มากถึง 50 เกาะประกอบไปด้วยภูเขาไฟที่ดับแล้วกว่า 49 แห่ง และ ณ เมืองโอ๊คแลนด์แห่งนี้เอง ยังมีอ่าวจอดเรือที่สามารถจอดเรือยอร์ช ได้กว่า 1,400 ลำ เรียกได้ว่า เป็นเมืองท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของซีกโลกใต้ (The City of Sail) ก็ว่าได้ 
     ซึ่งด้วยความที่เมืองโอ๊คแลนด์เป็นเมืองที่โดดเด่นในทัศนียภาพทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก สถานที่ท่องเที่ยวของโอ๊คแลนด์ส่วนใหญ่ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นที่ถูกใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รัก และ หลงใหลการพจญภัยนั่นเอง 

     ท่าเรือโอ๊คแลนด์ (Waitemata Harbour) หรือ Auckland Harbour เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองโอ๊คแลนด์ สามารถจอดเรือได้กว่า 1400 ลำ มีเรือให้เดินเที่ยวชมหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเรือขนส่งสินค้า เรือยอร์ช เรือขนส่งผู้โดยสาร เรือหางยาว และ อีกมากมาย ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองโอ๊คแลนด์ และ ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง เพราะต้องบอกเลยว่าวิวถ่ายรูปในมุมนี้ งดงามมากๆ นอกจากเรือจำนวนมาก และ น้ำทะเลสีฟ้าใสแล้ว คุณยังสามารถมองเห็นสะพาน Auckland Harbour Bridge ซึ่งเป็นสะพานข้ามอ่าว Waitemata Harbour หรือ Auckland Harbour เชื่อมระหว่างเขตตัวเมืองโอ๊คแลนด์ (St Marys Bay ) เข้ากับเขตชายฝั่งตอนเหนือ (Northcote) นั่นเอง
     นอกจากบรรยากาศที่สวยงามแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากมาย โดยกิจกรรมที่พบาดไม่ได้ ได้แก่ การล่องเรือใบ (harbour sailing) เพื่อชมตัวเมือง และ แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองโอ๊คแลนด์ ไม่ว่าจะเป็น การชื่นชมวิวของ Auckland City skyline และ จุดสูงสุดของภูเขาไฟอันเป็นเอกลักษณ์ของนิวซีแลนด์จากผืนน้ำ และ ล่องเรือใต้สะพาน Auckland Harbour Bridge อย่างใกล้ชิด เป็นต้น  

     หากพูดถึงแลนด์มาร์กที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์เมืองโอ๊คแลนด์แล้วละก็ แน่นอนว่าสถานที่แห่งนั้น หนีไม่พ้น ตึกโอ๊คแลนด์สกายทาวเวอร์ (Auckland Sky Tower) ซึ่งเป็นตึกสูงใหญ่ใจกลางย่านธุรกิจของเมืองโอ๊คแลนด์ มีความสูงร่วม 328 เมตร เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 1997 ซึ่งสาเหตุที่ตึกสูงใหญ่ รูปทรงแหล่งแห่งนี้ กลายเป็น Iconic Landmark ของเมืองโอ๊คแลนด์นั้น คงจะเป็นเพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นแหล่งรวมกิจกรรมท่องเที่ยว และ สังสรรค์ของนักท่องเที่ยวและชาวเมืองโอ๊คแลนด์ ถือเป็น Sky City Complex ประกอบไปด้วย ร้านอาหาร, คาเฟ่, คาสิโน, บาร์ และ โรงแรม ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ตึกโอ๊คแลนด์สกายทาวเวอร์ (Auckland Sky Tower) ยังมีกิจกรรมท้าทายนักกล้า อย่างกิจกรรมสกายวอล์ค (SkyWalk) และ สกายจัมป์ (SkyJump) ที่ให้คุณได้ดื่มด่ำวิวเมืองโอ๊คแลนด์แบบ 360 องศา บนความสูงเหนือพื้นดินกว่า 192 เมตร 
สำหรับกิจกรรมสกายวอล์ค (Sky Walk) : นักท่องเที่ยวจะได้เดินท้าทายแรงโน้มถ่วง บริเวณรอบตึก บนตระแกงความกว้าง 1.2 เมตร เป็นเวลา 1.5 ชั่วโมง
     สำหรับกิจกรรมสกายจัมป์  (Sky Jump) : นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสวยงามของเมืองโอ๊คแลนด์ด้วยการกระโดดลงมาจากตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ ด้วยความเร็วกว่า 85kph กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ ประมาณ 11 วินาที เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่พลาดไม่ได้ 

     หากการท่องเที่ยวในครั้งนี้ของคุณ คือ การดื่มด่ำไปกับสถาปัตยกรรม และ ศิลปะอันงดงามประจำเมืองโอ๊คแลนด์ บอกเลยว่า ที่ศาลาว่าการเมืองประจำจังหวัด (Auckland Town Hall) บริเวณถนน Queen เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หากมีเวลาเหลือ ควรจะแวะมาเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันสักหน่อย โดยสถานที่แห่งนี้ ทำหน้าที่เป็นศาลาว่าการประจำเมืองโอ๊คแลนด์ มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Neo-Renaissance อันงดงาม และ หอนาฬิกาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านบนสุดของตึก ความงดงามนี้เอง ทำให้ประเทศนิวซีแลนด์ แต่งตั้งให้ตึกแห่งนี้ เป็นหนึ่งในมรดกของประเทศ (Heritage of New Zealand) 
     นอกจากนี้ Auckland Town Hall ยังใช้เป็นสถานที่จัดการแสดง และ คอนเสิร์ตของ Auckland Philharmonia Orchestra หรือ วงดุริยางค์ซิมโฟนีแห่งประเทศนิวซีแลนด์ที่มีชื่แเสียงอันโด่งดัง ด้วยความที่ศาลาว่าการเมืองแห่งนี้ มีห้องโถงใหญ่ ที่มาพร้อมกับสไตล์โรงละคร ซึ่งสามารถรองรับคนได้มากกว่า 1,500 คน อีกทั้งยังเป็นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตไปป์ออร์แกน (Pipe Organ) ที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ อีกด้วย ทำให้ในแต่ละสัปดาห์มีผู้คนเดินทางมาดูคอนเสิร์ตที่ศาลาว่าการแห่งนี้ เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ หากเดินไปทางตะวันตกเฉียงใต้อีกประมาณ 750 เมตร ท่านก็จะเจอ Albert Park อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองโอ๊คแลนด์ที่ได้รับความนิยมนั่นเอง 

      สวนสาธารณะ Albert Park เป็นสวนสาธารณะกลางเมืองโอ๊คแลนด์ที่สวยงาม และ กว้างใหญ่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสถานที่พักผ่อน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และ ดอกไม้นานพันธ์ โดยในช่วงหน้าร้อนของทุกปี สวนสาธารณะแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยชาวเมืองโอ๊คแลนด์ที่ออกมาสังสรรค์ และ นั่งปิกนิกกับเพื่อนฝูงจำนวนมาก นอกจากพื้นที่แตกแต่งอย่างงดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น จิตรกรรม และ น้ำพุที่มาในสไตล์วิกตอเรีย ดังนั้น สถานที่แห่งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งมุมโปรดของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นตึก Auckland Sky Tower ได้จากสวนแห่งนี้อีกด้วย  

      ภูเขา Maungawhau หรือที่ชาวโอ๊คแลนด์เรียกกันว่า Mt Eden เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และ สำคัญอีกหนึ่งแห่งของเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งบนยอดของภูเขาลูกนี้ จะเป็นที่ตั้งของปล่องภูเขาไฟที่ดับไปแล้วกว่า 15,000 ปี ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่โตที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ แม้ว่าภูเขาไฟลูกนี้จะดับไปแล้ว แต่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็หลงใหลในความยิ่งใหญ่ และ ความสวยงามของทัศนียภาพเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการเดินทางขึ้นไปชมปล่องภูเขาไฟ พร้อมกับวิวเมืองโอ๊คแลนด์แบบ 360 องศานั้น นักท่องเที่ยวจะต้องปีนเขาขึ้นไป (Hiking) อย่างไรก็ตาม เส้นทางก็ไม่ได้ลำบาก เป็นพื้นที่ราบรอบนอกภูเขา ซึ่งระยะทางทั้งขาไป และ ขากลับ เพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น โดยจะใช้เวลาโดยประมาณเพียงแค่ 40 นาที ซึ่งระหว่างทาง นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความงดงามของวิวเมืองโอ๊คแลนด์ ตามระดับความสูงที่แตกต่างกันไป 
     เมื่อมาถึงยอดสูงสุด สิ่งที่คุณจะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด คือ หลุมภูเขาไปที่มีความลึกกว่า 50 เมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมได้อย่างใกบ้ชิด แต่ไม่สามารถเดินไปบนหลุมได้ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ ยังคงถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมาวรีอยู่นั่นเอง  

โพสต์โดย : Kingdom Kingdom เมื่อ 8 ธ.ค. 2566 19:28:05 น. อ่าน 62 ตอบ 0

facebook