Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ผลไม้-ผัก 5 สี ดีอย่างไร?
ผักและผลไม้อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ มีแร่ธาตุและวิตามินมากมาย
และยังจัดว่าเป็นอาหารที่มีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) หรือสารพฤกษเคมีสูง ซึ่งคือสารอาหารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากพืชเท่านั้น โดยมีคุณสมบัติ
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อม กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันการติดเชื้อและการเกิดโรคต่างๆ
ได้ องค์การอนามัยโลก ชี้ว่า การกินผักผลไม้วันละ 400 กรัมขึ้นไป ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือด ลดอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งกระเพาะอาหาร ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอด ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ โดยองค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ด้วยว่า ในผักผลไม้ต้องประกอบด้วยเมล็ดธัญพืชและถั่วต้องเป็นผักไม่รวมแป้ง เช่น มันฝรั่ง มันสำปะหลัง นอกจากในผักและผลไม้จะมีวิตามินและแร่ธาตุสูงแล้ว ยังมีกากและใยอาหารที่ได้จากผักและผลไม้ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ ลดอาการท้องผูกได้อีกด้วย
ผลไม้-ผัก 5 สี มีสีอะไรบ้าง?
1.
กลุ่มผักสีเขียว จะมีสารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันเซลล์ในร่างกายถูกทำลาย
นอกจากจะมีคลอโรฟิลล์แล้ว ในผักสีเขียวยังมีสารประกอบอื่น เช่น ลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งอีกด้วย ผักสีเขียว ได้แก่ คะน้า ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม แตงกวา กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ใบชะพลู บวบ คื่นฉ่าย กุยช่าย ชะอม สะตอ
2.
กลุ่มผลไม้-ผักสีแดง จะมีสารที่เรียกว่า ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีและมากกว่ากลูตาไธโอนซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งชนิดต่างๆ รวมถึงยังช่วยให้ภาวะผิดปกติของร่างกายดีขึ้นได้
เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน ผัก-ผลไม้สีแดงที่พบบ่อย ได้แก่ มะเขือเทศ แตงโม ทับทิม แก้วมังกร สตรอว์เบอรรี ราสป์เบอร์รี ดอกกระเจี๊ยบ เชอร์รี เมล็ดทับทิม หัวบีท
3.
กลุ่มผลไม้-ผักสีส้ม-เหลือง จะมีสารเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และสารลูทีน ที่ช่วยบำรุงสายตา รักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด ดูแลระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ผักผลไม้สีส้ม-เหลืองที่พบบ่อย ได้แก่ มะละกอ แคร์รอต ฟักทอง มันเทศ ส้ม สับปะรด ขนุน ลูกพลับ มะนาว มะยม มะม่วง ทุเรียน ขมิ้นชัน เสาวรส
4.
กลุ่มผัก-ผลไม้ สีม่วง-น้ำเงิน จะให้สารที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่มีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง ยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหาร
ผักผลไม้สีม่วง-น้ำเงินที่พบบ่อย ได้แก่ กะหล่ำปลีสีม่วง มันสีม่วง เผือก องุ่นแดง ชมพู่ม่าเหมี่ยว ชมพู่แดง ลูกหว้า ลูกพรุน ลูกเกด ข้าวแดง มะเขือม่วง หอมแดง บลูเบอร์รี อัญชัน
5.
กลุ่มผลไม้-ผักสีขาว-น้ำตาล เป็นผักและผลไม้ที่มีสารอาหารที่เรียกว่า แซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ช่วยสร้างเซลล์ให้แข็งแรง ยับยั้งการเกิดเนื้องอก และลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งชนิดต่างๆ ต้านการอักเสบ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ลดไขมันในเลือด และรักษาระบบภูมิคุ้มกัน
ผักผลไม้สีขาว-น้ำตาลที่พบบ่อย ได้แก่ ลูกเดือย ขิง ข่า กระเทียม หัวไชเท้า งาขาว เมล็ดงา พุทรา ลางสาด แห้ว ลองกอง เงาะ ลิ้นจี่ ละมุด
เทคนิคง่ายๆ ในการกินผัก-ผลไม้ ให้ได้ครบ 5 สี
ในแต่ละมื้อ นอกจากจะ
พยายามเลือกเมนูที่มีผักผลไม้เยอะสีมากที่สุด
และกวาดสายตาดูในจานอาหารว่ามีผักอยู่ถึง 50% ของอาหารทั้งหมดในจานหรือไม่ ยังควรพยายามทำความรู้จักผักผลไม้ให้ครบทั้ง 5 สี ไม่ว่าจะที่ตลาด ซูเปอร์มาร์เกต หรือร้านอาหาร จะทำให้เจอผักผลไม้สีสันแปลกใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการหัดทำกับข้าวกินเอง เพื่อเลือกผักที่ชอบสลับสับเปลี่ยนกับผักใหม่ๆ ตามฤดูกาลที่ไม่เคยกิน ก็จะช่วยให้ได้สารอาหารหลากหลาย แต่ถ้ายังไม่พร้อมเข้าครัวปรุงเอง อาจใช้การเตรียมผักสดหรือสลัดมาเป็นผักเคียงอาหารจานหลักที่สั่งจากร้านปกติ หรือจะลวกผักมาเติมในก๋วยเตี๋ยว ก็ช่วยให้กินผักได้มากขึ้นในแต่ละมื้อ อีกทางเลือกหนึ่งคือการทำน้ำผักผลไม้ปั่นดื่ม โดยเน้นผักเยอะๆ แล้วผสมน้ำผลไม้ (แบบคั้นเอง) ลงไปนิดหน่อย เพื่อลดกลิ่นเขียวของผักและเพิ่มเติมความอร่อย แต่ปั่นแล้วควรดื่มทันที เพื่อไม่ให้สูญเสียคุณค่าของสารอาหาร หรือคนที่กินผักยากจริงๆ หรือมีปัญหาด้านการเคี้ยวอาหาร อาจเลือกรับประทานผักอัดเม็ด ซึ่งผักอัดเม็ดนี้ได้มาจากการนำผักผลไม้สดหลายๆ ชนิดมาผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีทีทันสมัย แล้วทำให้ผักกลายเป็นผง แล้วนำมาอัดเป็นเม็ด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รักสุขภาพที่ต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : solo
เมื่อ 12 มิ.ย. 2567 01:35:44 น. อ่าน 28 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์