Menu

10 พระเครื่องนิยมมีติดตัว ช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย

  10 พระเครื่องนิยมมีติดตัว ช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย

พระเครื่อง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้การขับรถของคุณนั้นเป็นไปด้วยความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะบูชาพระเครื่ององค์ไหนก็เข้ามาอ่านดูก่อนได้  ยิ่งช่วงนี้ฝนตกทุกวัน เรียกได้ว่าพระพิรุณทำงานอย่างขยันขันแข็งเลยทีเดียว หลายท่านโดยเฉพาะผู้ใช้ท้องถนนคงไม่ชอบสักเท่าไรเพราะนอกจากรถจะติดแล้วถนนยังลื่นทำให้ยากต่อการควบคุมรถ เผลอ ๆ หากปล่อยใจลอยแม้เพียงนิดเดียวอุบัติเหตุก็คงจะเกิดขึ้นได้ในทุกวินาที แถมระวังแค่ตัวเองอาจจะไม่พอ ต้องคอยระวังรถคันอื่นอีก!! วันนี้ CARSOME Thailand จะมาแนะนำ 10 พระเครื่องที่ควรห้อยเพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัย มีอะไรกันบ้างไปดูกันเลยดีกว่า!


หลวงปู่ทวดคือใคร? ตามประวัติที่พิมพ์เผยแพร่กล่าวว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รูปสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ส่วนในเรื่องของปาฏิหารย์สำหรับผู้ที่ห้อยพระเครื่องหลวงปู่ทวดนั้นก็มีออกข่าวมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น “ปิกอัพฝ่าที่กั้น รถไฟชนกระเด็น คนขับไร้รอยขีดข่วนเพราะห้อยหลวงปู่ทวด” , “ฮ.ตก 7 นักบินรอดตายปาฏิหารย์ เชื่อบารมีหลวงปู่ทวดรุ่นชนะมารที่นักบินห้อยช่วยไว้” ฯลฯ

เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุค ที่แม้ปัจจุบันท่านจะละสังขารจากไปแล้ว แต่ท่านก็ทิ้งความดีเอาไว้มากมาย นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวปาฏิหารย์เกี่ยวกับ “เหรียญหลวงพ่อคูณ”ที่เล่ากันปากต่อปากอีกด้วย ว่าขึ้นชื่อเรื่องความแคล้วคลาดปลอดภัย ใครห้อยแล้วปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่ว่าเจออะไรก็จะปลอดภัยทุกครั้งไป

เรื่องปาฏิหารย์เหรียญหลวงพ่อคูณนั้นดังมานานแล้ว แต่มาดังเป็นพลุแตกหลังเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานเคเดอร์ที่ผลิตตุ๊กตาส่งนอก ที่สายสี่ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เมื่อปี พ.ศ.2536 หนึ่งในผู้รอดชีวิตซึ่งเป็นสาวท้องแก่ได้บอกกับนักข่าวว่า เธอกำเหรียญหลวงพ่อคูณเอาไว้และอธิษฐานขอให้พุทธคุณคุ้มครอง ก่อนจะลงบันไดฝ่าไฟนรกลงมา แน่นอนว่าในวันรุ่งขึ้นเรื่องนี้ถูกเล่าขานเต็มหน้า 1 หนังสือพิมพ์ในขณะนั้น หลังจากนั้นคนมากมายที่เคยสัมผัสปาฏิหารย์ของเหรียญหลวงพ่อคูณก็ออกมาแชร์เรื่องราวของตนกันอีกเยอะแยะมากมาย จนทำให้ทุกคนลงความเห็นว่า เหรียญหลวงพ่อคูณนี่แหละ มีไว้แล้วแคล้วคลาดปลอดภัยแน่นอน


เรื่องราวความปาฏิหารย์ของพระเครื่องหลวงพ่อโสธรนั้นอันที่จริงแล้วก็มีหลายเรื่อง แต่เรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็มี “ปาฏิหาริย์ แขวน พระเครื่อง “หลวงพ่อโสธร” 23 องค์ แท็กซี่ถูกกระหน่ำยิง เฉียดหัวคนขับแค่ 10 ซม.” หรือหากคุณผู้อ่านท่านใดมีเรื่องราวปาฏิหารย์ของพระเครื่องหลวงพ่อโสธรในเรื่องของความแคล้วคลาดปลอดภัยอีก สามารถแชร์เรื่องราวของท่านได้เลย


พระวัดปากน้ำที่หลายคนเรียกกันติดปาก จริงๆ แล้วคือ “พระผงของขวัญวัดปากน้ำ” เป็นพระที่พระมงคลเทพมุนี หรือ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี สร้างขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญให้ผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนช่วยกันสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม และมอบพระให้เป็นที่ระลึก เลยเรียกกันว่า “พระของขวัญ” ประกอบด้วยวัตถุมงคลต่างๆ มีตัวหลักเป็นผงปูน และเขียนผงเป็นยันต์วิเศษตามตำรับ เช่น ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงปถมัง เป็นต้น มีมวลสารอื่นๆ อาทิ ดอกมะลิแห้งที่มีผู้นำไปบูชา เส้นเกศาของหลวงพ่อสดเอง

ผู้รับพระของขวัญไปแขวนประจำตัว ต่างก็พบกับความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารต่างๆ นานา บางคนรับพระของขวัญไปแล้วก็ถูกลอตเตอรี่บางคนทำมาค้าขึ้นร่ำรวยจนตัวเองก็แปลกใจ บางคนประสบอุบัติเหตุร้ายแรง คนอื่นๆ เสียชีวิตหมด มีแต่ผู้ที่แขวนพระของขวัญเท่านั้นที่รอดมาได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากนี้ทหารไทยที่ไปรบที่ประเทศเกาหลีมักจะพากันมารับพระของขวัญและให้หลวงปู่เป่ากระหม่อมให้ และข่าวที่ดังมากเร็วนี้คือเด็กอายุเพียง 2 ปีถูกรถทับแต่ไม่มีแม้รอยขีดข่วนพอเข้าไปอุ้มก็พบว่าเด็กน้อยห้อยหลวงพ่อวัดปากน้ำ เรื่องนี้จริงไม่จริงอย่างไรก็แล้วแต่วิจารณญาณของท่านผู้อ่านอีกทีนะ

พระเครื่องหลวงพ่อปานในที่นี้คือ หลวงพ่อปาน โสนันโท แห่งวัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้จัดทำพระพิมพ์ขึ้น ซึ่งพระพิมพ์ที่ว่านี่แหละที่เป็นที่นิยมบูชาของคนทั่วไป พระพิมพ์ที่จัดสร้างขึ้นในระยะแรก พระหลวงพ่อปานเรียกกันว่า “พิมพ์โบราณ” ส่วน “พิมพ์มาตรฐาน” นั้นนำออกแจกจ่ายในพ.ศ. ๒๔๖๐ ซึ่งได้รับความนิยมเสาะแสวงหา ด้วยปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ความแคล้วคลาดจากภยันตราย ตลอดจนความเป็นสิริมงคล สมปรารถนาแก่ผู้อธิษฐานติดตัว



หลวงปู่ทวด วัดช้างให้หรืออีกชื่อที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีอีกชื่อก็คือ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งเป็นที่ลือเลื่องมากในเรื่องพุทธคุณเกี่ยวกับการแคล้วคลาดจากภยันตราย เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาหลวงปู่ทวดนั้นจะรอดจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งมีเรื่องเล่าปากต่อปากกันต่อมาถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดกันมาหลายรอด อย่างเช่นเรื่องราวของหน่วยรักษาความปลอดภัยของผู้ชุมนุมที่ถูกลอบยิงกลางดึกด้วยอาวุธปืน โดยทิศทางกระสุนพุ่งตรงเข้าหน้าอก แต่ทว่ากลับกระแทกเข้ากับ “พระเครื่อง” จนกระสุนแฉลบออกจากจุดอันตรายของร่างกาย 

ถ้าหากต้องออกเดินทางและกังวลเรื่องอันตรายที่ไม่คาดคิดก็ขอให้ก่อนออกเดินทางท่องคาถาบทหลวงปู่ทวด โดยเริ่มต้นด้วยการตั้งนะโม 3 จบ แล้วก็ระลึกถึงคุณพระ เป็นการขอพรบารมีให้ท่านคุ้มครอง ซึ่งผู้ที่ศรัทธาส่วนใหญ่เชื่อว่าคาถาของหลวงปู่ทวด โดยเฉพาะคาถา “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” นี้จะเป็นการช่วยให้รอดพ้นจากภยันอันตรายทั้งปวงนั่นเอง

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลานถือว่าเป็นสุดยอดแห่งพุทธคุณในด้านอิทธิฤทธิ์การแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี และเสน่ห์เมตตามหานิยมโดยเฉพาะในด้านค้าขายอีกด้วย ประวัติเดิมนั้นหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ เกิดวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๓ ตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน จ.พิจิตร ฉายาของหลวงพ่อเงินได้มาตอนเมื่อได้เข้าอุปสมบทที่วัดชนะสงคราม และเมื่อครบ 3 พรรษาก็ได้มาถวายตัวเป็นศิษย์กับ เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสีวัดระฆังโฆสิตาราม เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคมและเรียนวิปัสสนาธุระ หลังจากนั้นหลวงพ่อเงินได้ย้ายมาจำพรรษาที่ วัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) จ.พิจิตร ซึ่งท่านผู้ที่มีญาณวิเศษและยังเป็นหมอเชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านได้อย่างชะงัดอีกด้วย

พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานจึงเป็นอีกหนึ่งในตำนานของพระเครื่องไทย ซึ่งทุกรุ่นขึ้นชื่อว่ามีประสบการณ์ดีทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง เมตตามหานิยม โชคลาภ และค้าขายโดยที่นิยมบูชานั้นมี 4 พิมพ์ได้แก่ รูปหล่อพิมพ์นิยม รูปหล่อพิมพ์ขี้ตา เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ และเหรียญหล่อพิมพ์จอบเล็ก ซึ่งถ้านับอายุการสร้างถึงวันนี้ก็มีอายุประมาณ ๑๐๐ ปีได้แล้ว

หลวงพ่อเดิม เป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังในจังหวัดนครสวรรค์และได้รับการยกย่องให้เป็น เทพเจ้าแห่งเมืองสีแคว เพราะหลวงพ่อเดิมนั้นเป็นที่เคารพและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมสูงสุดของท่านจะเป็นรุ่น พระรูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก ปี 2482 (พิมพ์นิยม) ซึ่งรุ่นนี้เป็นที่เลื่องลือโดยเฉพาะความเข้มขลัง และถือว่าเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลหายากที่ได้รับความนิยมมากๆในหมู่ของนักสะสมพระเครื่อง และในปัจจุบันก็ถือเป็นรุ่นที่มีมูลค่าสูงมากอีกด้วย ส่วนใหญ่พระเครื่องหลวงพ่อเดิมจะเน้นพุทธคุณในเรื่อง แคล้วคลาด มหาอุด คงกระพันและเมตตามหานิยม 

หลวงพ่อจง พุทธัสสโร เป็นหนึ่งในสี่เกจิพระอาจารย์ชื่อดังช่วงสงครามอินโดจีน ซึ่งประวัติของหลวงพ่อจงนั้นถือกำเนิดที่ ต.หน้าไม้ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ปี พ.ศ.2415 บวชเป็นสามเณรตอนอายุ 12 ปี เมื่ออายุครบอุปสมบทจึงบวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดหน้าต่างใน หลังจากจึงได้ ไปจำพรรษาที่วัดหน้าต่างในเพื่อศึกษาวิชาจากพระอาจารย์โพธิ์ และร่ำเรียนด้านวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงปู่ปั้นแห่งวัดพิกุลซึ่งเป็นสุดยอดพระเกจิดังในยุคนั้น หลังจากที่หลงพ่อจงได้เข้าสู่สมณเพศ อาการต่างๆ ที่เป็นเมื่อตอนเด็กนั้นหายไปจนหมดสิ้น (ตอนเด็ก ๆ ท่านมีปัญหาเซื่องซึม หูตาฝ้าฟางมองไม่ค่อยชัดเจน) และสามารถศึกษาร่ำเรียนวิทยาการต่างๆ จากพระอาจารย์ทั้งหลายได้อย่างเชี่ยวชาญและแตกฉาน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2450 เจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอกว่างลง ชาวบ้านจึงนิมนต์ท่านเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ พุทธคุณที่โดดเด่นของพระเครื่องหลวงพ่อจงนั้นจะเน้นในเรื่องการแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม

มาถึงอันดับสุดท้าย พระเครื่องหลวงพ่อโอภาศรี แห่งอาศรมบางมด หลวงพ่อท่านมีนามเดิมว่า ชวน มะลิพันธุ์ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2441 ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช  ท่านได้บวชเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และเมื่ออายุครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่หลวงพ่อได้ศึกษาธรรมะจนได้เปรียญ 5 ประโยค  ท่านก็ได้หันเหความสนใจไปศึกษาในด้านวิชาอาคมและได้เดินธุดงค์ไปเรียนวิชาอาคมจากหลายพระอาจารย์ต่าง ๆ  เป็นเวลาเกือบ 20 ปี

อีกทั้งท่านยังเป็นศิษย์ของหลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา จ.นครนายก และได้ศึกษาวิชาบูชาเพลิง เรื่องเพ่งกสินไฟ เพื่อให้จิตสงบนิ่ง ท่านนำสิ่งของทุกอย่างที่ลูกศิษย์ถวายมาโยนเข้ากองไฟหมด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีมูลค่าสูงเพียงใด ด้วยความมุ่งมั่นในการบำเพ็ญเพียร ทำให้ท่านมีจิตที่กล้าแกร่ง วิชาอาคมเข้มขลัง และนี่ก็เป็นสาเหตุให้ผู้ที่บูชาพระเครื่องของหลวงพ่อโอภาศรีได้ประสบกับเหตุการณ์อัศจรรย์ใจอย่างเช่น รอดจากภัยอันตรายได้อย่างปาฏิหาริย์ และยิงฟันแทงไม่เข้า นี่อาจจะเป็นเพราะหลวงพ่อนั้นมีความแข็งแกร่งด้านอาคมอยู่แล้ว และทำให้พระเครื่องของท่านมีความโดดเด่นในพุทธคุณด้านนี้นั่นเอง

โพสต์โดย : ขั้นเทพ ขั้นเทพ เมื่อ 3 ก.ค. 2567 06:22:34 น. อ่าน 18 ตอบ 0

facebook