ดูบอลโลก ดูบอลออนไลน์ ดูบอลสด ศูนย์รวมลิงค์ดูบอลจากทั่วโลก ดูบอลผ่านเน็ตฟรี ครบทุกเกมส์
โค้ชที่ใช่ ในเวลาที่ถูกต้อง / แมวดำ
โพสต์เมื่อ 7 ส.ค. 2562 19:29:50 น. เข้าชม 753 ครั้ง แจ้งลบ
คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
สถานการณ์ของศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 เข้มข้นขึ้นทุกขณะ เมื่อจบการแข่งขันนัดที่ 21 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำอยู่ดีๆ ดันมาพลาดท่าบุกแพ้ เชียงราย ยูไนเต็ด ย่อยยับ 0-4 แบบหักปากกาเซียนทุกด้ามเรียบ จากผลงานดังกล่าว นอกจากจะส่ง เชียงราย ไปยืนทำหน้าร้ายๆ อยู่บนตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนแทนแล้ว ยังส่งผลให้ให้ทีมตามที่มีคะแนนห่างจากจ่าฝูงไม่เกิน 10 แต้ม ต่างก็มีลุ้นแชมป์ลีกต่อไป
โดยทีมที่ตามไม่เกิน 10 แต้ม ประกอบด้วย 2.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (38 คะแนน) 3.การท่าเรือ เอฟซี (36 คะแนน) 4.สมุทรปราการ ซิตี้ (35 คะแนน) 5.ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (34 คะแนน) 6. เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (30 คะแนน) 7. ชลบุรี เอฟซี (29 คะแนน) ซึ่งการแข่งขันในลีกก็เหลืออีกตั้ง 9 นัด 27 คะแนน ให้แต่ละทีมได้เก็บเกี่ยวกัน โอกาสลุ้นแชมป์จึงเปิดกว้างมากยิ่งกว่าฤดูกาลที่ผ่านๆ มา
เมื่อเหลืออีก 9 นัดของฟุตบอลลีก แต่ด้วยความที่ลีกบ้านเรามีบุคลิกแบบบอลแพ้แล้วชอบไล่โค้ช มันก็มาถึงจุดที่โค้ชหลายๆ คนจะโดนโค้ชคีย์บอร์ดกดดัน ไม่ว่าจะเป็นรายของ โบซิดาร์ บันโดวิช ที่ 5 นัดหลังสุดเก็บได้ 6 แต้ม จากผลชนะ 1 แพ้ 1 และ เสมอถึง 3 นัด รวมถึงในรายของ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มีผลงานไม่ต่างกัน เก็บได้ 5 คะแนน จาก 5 นัดหลังสุด แพ้ 2 ชนะ 1 และ เสมอ 2 นัด ก็เริ่มมีเสียงบ่นจากแฟน "แข้งเทพ" ว่าน่าจะถึงเวลาของการปิดตำนานกับสโมสรได้แล้ว
อย่างไรก็ตามหากมองในมุมของผู้บริหารทีมอย่าง ทรู แบงค็อก ก็คงยังให้โอกาส มาโน่ ต่อไป เพราะถึงอย่างไรในลีกก็ห่างจากทีมนำแค่ 5 แต้ม รวมถึงในช้าง เอฟเอ คัพ ก็ยังอยู่บนเส้นทางในรอบ 8 ทีม ที่ต้องนำทีมบุกเยือน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี อยู่ เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ ที่ต้องได้ลุ้น 3 แชมป์ เพราะบอลลีกห่างจ่าฝูง 1 แต้ม ส่วน โตโยต้า ลีกคัพ ก็เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย พบ หนองบัว พิชญ จากไทยลีก 2 หากผ่านได้ก็มีลุ้นได้ล้างตากับ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ต้องผ่าน พีที ประจวบ ให้ได้เสียก่อน
อีกทั้งการปลดโค้ชช่วงเวลานี้ จริงอยู่อาจหาโค้ชใหม่ไม่ยาก เพราะคนเก่งๆ ว่างงานก็ยังมี เพียงแต่อาจต้องมาเรียนรู้จักผู้เล่นในทีม รวมทั้งนักเตะก็ต้องมาปรับตัวเข้าหาโค้ชกันอีกว่าชอบแบบไหนอย่างไร ซึ่งมันก็อาจต้องใช้เวลาจูนกันสักระยะ เชื่อว่าผู้บริหารทีมที่มีลุ้นหัวตารางคงไม่อยากเปลี่ยนม้ากลางศึกเช่นนี้แน่ (แต่ทีมหนีตกชั้นคงตรงข้ามกัน)
ขณะที่หัวตารางฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ หันไปดูทีมที่แรกๆ เหมือนจะเป็นยักษ์ใหญ่หนีตายอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ชลบุรี เอฟซี ตอนต้นฤดูกาลผลงานรูดไปวิ่งเล่นในโซนตกชั้น แต่เวลานี้กลับมารั้งเบอร์ 6 เบอร์ 7 ของตารางได้ จากการเปลี่ยนโค้ชโดยแท้ อย่าง เมืองทอง ได้ตัว อเล็กซานเดร์ กาม่า มาถูกที่ถูกเวลา ทำให้ 5 นัดหลังสุดคว้าชัยได้ถึง 4 นัด เสมอ 1 นัด รวมแล้ว 13 คะแนน พุ่งกลับมามีลุ้นแชมป์ได้เลย หากว่าอันดับเหนือขึ้นไปยังกระท่อนกระแท่น
เช่นเดียวกับ "ฉลามชล" ที่ได้ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือสายฮาร์ดทอล์ก มาปลุกให้ทีมกลับมากระชุ่มกระชวย 5 นัดหลัง ชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้นัดเดียวเท่านั้น ตามหลังจ่าฝูง 10 คะแนนพอดิบพอดี แถมในทีมยังมีพวกตัวเก๋ามาประคองเด็กดาวรุ่งฝีเท้าดีที่รอวันเลื่อนมาทดแทนรุ่นได้อย่างลงตัว เชื่อเหลือเกินว่าไทยลีกปีนี้คงลุ้นแชมป์กันถึงนัดสุดท้ายแน่นอน
สถานการณ์ของศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 เข้มข้นขึ้นทุกขณะ เมื่อจบการแข่งขันนัดที่ 21 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำอยู่ดีๆ ดันมาพลาดท่าบุกแพ้ เชียงราย ยูไนเต็ด ย่อยยับ 0-4 แบบหักปากกาเซียนทุกด้ามเรียบ จากผลงานดังกล่าว นอกจากจะส่ง เชียงราย ไปยืนทำหน้าร้ายๆ อยู่บนตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนแทนแล้ว ยังส่งผลให้ให้ทีมตามที่มีคะแนนห่างจากจ่าฝูงไม่เกิน 10 แต้ม ต่างก็มีลุ้นแชมป์ลีกต่อไป
โดยทีมที่ตามไม่เกิน 10 แต้ม ประกอบด้วย 2.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (38 คะแนน) 3.การท่าเรือ เอฟซี (36 คะแนน) 4.สมุทรปราการ ซิตี้ (35 คะแนน) 5.ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (34 คะแนน) 6. เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (30 คะแนน) 7. ชลบุรี เอฟซี (29 คะแนน) ซึ่งการแข่งขันในลีกก็เหลืออีกตั้ง 9 นัด 27 คะแนน ให้แต่ละทีมได้เก็บเกี่ยวกัน โอกาสลุ้นแชมป์จึงเปิดกว้างมากยิ่งกว่าฤดูกาลที่ผ่านๆ มา
เมื่อเหลืออีก 9 นัดของฟุตบอลลีก แต่ด้วยความที่ลีกบ้านเรามีบุคลิกแบบบอลแพ้แล้วชอบไล่โค้ช มันก็มาถึงจุดที่โค้ชหลายๆ คนจะโดนโค้ชคีย์บอร์ดกดดัน ไม่ว่าจะเป็นรายของ โบซิดาร์ บันโดวิช ที่ 5 นัดหลังสุดเก็บได้ 6 แต้ม จากผลชนะ 1 แพ้ 1 และ เสมอถึง 3 นัด รวมถึงในรายของ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มีผลงานไม่ต่างกัน เก็บได้ 5 คะแนน จาก 5 นัดหลังสุด แพ้ 2 ชนะ 1 และ เสมอ 2 นัด ก็เริ่มมีเสียงบ่นจากแฟน "แข้งเทพ" ว่าน่าจะถึงเวลาของการปิดตำนานกับสโมสรได้แล้ว
อย่างไรก็ตามหากมองในมุมของผู้บริหารทีมอย่าง ทรู แบงค็อก ก็คงยังให้โอกาส มาโน่ ต่อไป เพราะถึงอย่างไรในลีกก็ห่างจากทีมนำแค่ 5 แต้ม รวมถึงในช้าง เอฟเอ คัพ ก็ยังอยู่บนเส้นทางในรอบ 8 ทีม ที่ต้องนำทีมบุกเยือน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี อยู่ เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ ที่ต้องได้ลุ้น 3 แชมป์ เพราะบอลลีกห่างจ่าฝูง 1 แต้ม ส่วน โตโยต้า ลีกคัพ ก็เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย พบ หนองบัว พิชญ จากไทยลีก 2 หากผ่านได้ก็มีลุ้นได้ล้างตากับ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ต้องผ่าน พีที ประจวบ ให้ได้เสียก่อน
อีกทั้งการปลดโค้ชช่วงเวลานี้ จริงอยู่อาจหาโค้ชใหม่ไม่ยาก เพราะคนเก่งๆ ว่างงานก็ยังมี เพียงแต่อาจต้องมาเรียนรู้จักผู้เล่นในทีม รวมทั้งนักเตะก็ต้องมาปรับตัวเข้าหาโค้ชกันอีกว่าชอบแบบไหนอย่างไร ซึ่งมันก็อาจต้องใช้เวลาจูนกันสักระยะ เชื่อว่าผู้บริหารทีมที่มีลุ้นหัวตารางคงไม่อยากเปลี่ยนม้ากลางศึกเช่นนี้แน่ (แต่ทีมหนีตกชั้นคงตรงข้ามกัน)
ขณะที่หัวตารางฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ หันไปดูทีมที่แรกๆ เหมือนจะเป็นยักษ์ใหญ่หนีตายอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ชลบุรี เอฟซี ตอนต้นฤดูกาลผลงานรูดไปวิ่งเล่นในโซนตกชั้น แต่เวลานี้กลับมารั้งเบอร์ 6 เบอร์ 7 ของตารางได้ จากการเปลี่ยนโค้ชโดยแท้ อย่าง เมืองทอง ได้ตัว อเล็กซานเดร์ กาม่า มาถูกที่ถูกเวลา ทำให้ 5 นัดหลังสุดคว้าชัยได้ถึง 4 นัด เสมอ 1 นัด รวมแล้ว 13 คะแนน พุ่งกลับมามีลุ้นแชมป์ได้เลย หากว่าอันดับเหนือขึ้นไปยังกระท่อนกระแท่น
เช่นเดียวกับ "ฉลามชล" ที่ได้ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือสายฮาร์ดทอล์ก มาปลุกให้ทีมกลับมากระชุ่มกระชวย 5 นัดหลัง ชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้นัดเดียวเท่านั้น ตามหลังจ่าฝูง 10 คะแนนพอดิบพอดี แถมในทีมยังมีพวกตัวเก๋ามาประคองเด็กดาวรุ่งฝีเท้าดีที่รอวันเลื่อนมาทดแทนรุ่นได้อย่างลงตัว เชื่อเหลือเกินว่าไทยลีกปีนี้คงลุ้นแชมป์กันถึงนัดสุดท้ายแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
